ones day

Monday, September 04, 2006

เรื่องราวความรัก...ที่อาจเกิดกับคุณในวันหนึ่ง

เรื่องราวความรัก...ที่อาจเกิดกับคุณในวันหนึ่ง

ที่แห่งนี้

ประตูสีขาวเปิดออก... พาเรากลับไปสู่โลกใบเดิม
เรายิ้มให้กัน... อย่างที่ไม่ได้เห็นมานานถึงสี่ปี เขาจับมือฉันหันหลังให้กับความเป็นจริง ไปสู่ความฝันที่เราเคยวาดไว้
ภายในบ้านยังคงเดิมในความรู้สึก ต่างไปที่ฝุ่นจับเขรอะและความเวิ้งว้าง
“บ้านหลังนี้ยังใหม่อยู่เลยนะ wall paper สียังไม่ซีดเลย”
ฉันใช้ปลายนิ้วลูบผนังลายนูนรูปดอกไม้เบาๆ
“ตรงนี้เคยมีที่วางรองเท้าสูงท่วมหัวเลย”
ฉันวาดมือในอากาศ ตรงที่ว่างข้างประตู“
ก็ทรายชอบซื้อรองเท้า ซื้อนั่นซื้อนี่ ซื้อจนบ้านรกไปหมดแล้ว ดูสิ ! จริงๆตรงนี้ต้องมีรองเท้าวางเป็นกองเลย”
เขาชี้ไปที่บันไดยกพื้นหนึ่งขั้น หน้าประตูบ้าน แล้วเราก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะเดินมายังกลางบ้าน
“ตรงนี้มีต้นวาสนา ตรงนี้มีโต๊ะกระจก ตรงนี้เป็นโซฟาสีครีม แต่สวยแค่เดือนเดียวเอง หลังจากนั้นสีก็หม่นๆชอบกลนะ”
เขาชี้นิ้วไปมาในอากาศ ฝุ่นคลุ้งตามการเคลื่อนไหวของเรา... ที่เหลืออยู่มีเพียงจานรองกระถางใบเดียวที่มุมห้อง บนพื้นไม้ปาเก้มีร่องรอยขูดขีดของบางสิ่งที่เคยวางอยู่
“ดูสิ!พื้นมีแต่รอย บอกแล้วเชียวตอนสร้างบ้านอย่าใช้พื้นแบบนี้ สวยแต่ดูแลยาก”
ฉันพูดแล้วเขาพยักหน้ารับทันที
“บ้านใหม่พี่ใช้พื้นกระเบื้องนี่แหละ ดูแลง่ายกว่า ใช้พื้นสีอ่อนทำให้บ้านกว้าง ผนังสีครีม พอเปิดไฟสีเหลืองคงดูอบอุ่นน่าอยู่”
เขายิ้มด้วยดวงตาประกายสดใส ก่อนรีบเดินตามฉันไปจนถึงห้องครัว...
“ห้องนี้ไม่ค่อยได้ใช้เลย...”
พูดแล้วฉันก็หัวเราะแก้เขิน
“ขอโทษนะที่ไม่ได้ดูแลให้มากกว่านี้”
ฉันพูดทั้งที่ไม่ได้มองหน้าเขาตรงๆ แต่ก็อุ่นใจขึ้นที่เขาตอบว่า
“ไม่เป็นไร”
เรายืนมองห้องนั้นอยู่นานและฉันก็รู้ว่าเขามองเห็นอะไร
ชั้นเก่าๆตรงนั้นเคยมีจานชามวางอยู่
เช้าวันที่เธอแสดงฝีมือ ผัดข้าวจานใหญ่แล้วแอบขโมยกุ้งที่ตั้งใจจะยำไปใส่จนเกือบหมด
ฉันโกรธ แต่วันนั้นเราไม่ได้ทะเลาะกัน วันนั้นเป็นวันอันแสนสุข
หลังจากที่เธอเข้ามากอดเบาๆแล้วขอโทษ เราก็หลับผล่อยไปพร้อมกันบนโซฟาสีหม่นเขาสะกิดฉันเบาๆจากภวังค์
มองลึกลงไปในดวงตาของฉัน เขาเองก็คงรู้ว่าฉันมองเห็นอะไรเราเดินขึ้นบันไดไปเงียบๆ ผ่านรูปถ่ายใบใหญ่บนผนังข้างบันไดไปทีละรูป รูปแรกเป็นรูปตั้งแต่สมัยเราเรียนมหาวิทยาลัย เขาชอบมารอฉันหน้าห้องเรียน ทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่แสนดีคอยเทคแคร์รุ่นน้อง......ฉันชอบรูปนี้ ฉันเห็นรอยยิ้มเป็นธรรมชาติของเรา
“เธอดูมีความสุข.... ฉันก็มีความสุข”
ฉันคิดอย่างนั้นที่กลางบันได ไฟกลมๆสีส้มยาวลงมา ส่องให้เห็นรูปที่สองเด่นชัดขึ้น ชุดแต่งงานสีขาวที่ฉันสวมดูส่องประกาย แต่ไม่สดใสและสวยงามเท่าแววตาของเธอ...วันแห่งความสุข...วันแห่งความสมหวัง แต่ไม่ใช่วันนี้ !เธอผลักประตูบานนั้นออก ! ลมพัดม่านสีขาวบางผืนใหญ่ที่ระเบียงสะบัดไปมา ลมแรงกระทบใบหน้าฉันหนาวเย็นไปถึงขั้วหัวใจ เตียงเหล็กเปล่า..ลวดลายสวยงามสีดำที่ตั้งอยู่กลางห้อง ไม่มีสิ่งใดพอจะให้ความอบอุ่นแก่ฉันได้เลย
“เตียงนี่ ทิ้งไว้ที่นี่คงดีที่สุดแล้วนะ”
เขาพูดเบาๆ
“รวมทั้งรูปพวกนั้นด้วยสินะ”
แล้วฉันก็หันไปสบตาเขา
“เราจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่ใช่ไหม”
ฉันพูดด้วยเสียงสั่นเครือ...เสียงแตรรถข้างล่างดังขึ้น 2-3 ครั้ง ฉันรู้ว่าถึงเวลาแล้ว
ในขณะที่น้ำตาเริ่มไหลรินอีกครั้งเขาดึงฉันเข้าไปกอดเบาๆ
“ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแล.....”
...ม่านสีขาวสะบัดไปมา ได้แต่มองเขาที่ระเบียง ส่งเขาจนลับสายตาไปเถิดที่รัก..... เมื่อความรักของเราไม่อาจไปถึงฝั่งฝัน คนที่เคยฝากชีวิตไว้ไม่อาจมาดูแล คำสัญญาเมื่อวานวัน ต้องปล่อยให้มันจบลงไปพร้อมกับความหวังที่เราเคยวาดไว้ เมื่อเวลาที่ผ่านมา ไม่อาจผูกมัดอะไรเราไว้ได้เลยประตูระเบียงปิดลง ม่านสีขาวสงบนิ่ง ผ่านบันไดทีละขั้น ผ่านความเวิ้งว้าง ผ่านความว่างเปล่า ผ่านความทรงจำฉันมีอนาคตที่สดใสรออยู่ เธอก็เช่นกันไปเถิดที่รัก ไปเถิด..... “ขอเพียงอย่าลืมว่าเคยรักกัน ”

0 Comments:

Post a Comment

<< Home

FREE CUTE CURSORS @ MySpaceBrat.com!