ones day
Wednesday, September 27, 2006
Tuesday, September 12, 2006
Journées européennes du Patrimoine

Journées européennes du Patrimoine Samedi 16 et dimanche 17 septembre10h30 à 18h00Entrée gratuite
"Faisons vivre notre patrimoine"... c'est le mot d'ordre de ces 23èmes Journées européennes du Patrimoine, qui aborderont sous des angles divers la question de l'appropriation culturelle.Venez donc nombreux, vous plonger dans votre patrimoine...
Au programme découverte gratuite des luxueuses voitures du musée des Carrosses, de l'épopée napoléonienne du musée Parlant, des paisibles espaces du Grand Trianon et, pour la première fois, du domaine de Marie-Antoinette avec des animations musicales dans un goût champêtre en harmonie avec ce célèbre lieu de villégiature où la Reine jouait la comédie sur la scène de son Petit Théâtre et, dans son Hameau, régnait sur une exploitation agricole miniature produisant lait, fruits et légumes...
Tuesday, September 05, 2006
Monday, September 04, 2006
เรื่องราวความรัก...ที่อาจเกิดกับคุณในวันหนึ่ง
เรื่องราวความรัก...ที่อาจเกิดกับคุณในวันหนึ่ง
ที่แห่งนี้
ประตูสีขาวเปิดออก... พาเรากลับไปสู่โลกใบเดิม
เรายิ้มให้กัน... อย่างที่ไม่ได้เห็นมานานถึงสี่ปี เขาจับมือฉันหันหลังให้กับความเป็นจริง ไปสู่ความฝันที่เราเคยวาดไว้
ภายในบ้านยังคงเดิมในความรู้สึก ต่างไปที่ฝุ่นจับเขรอะและความเวิ้งว้าง
“บ้านหลังนี้ยังใหม่อยู่เลยนะ wall paper สียังไม่ซีดเลย”
ฉันใช้ปลายนิ้วลูบผนังลายนูนรูปดอกไม้เบาๆ
“ตรงนี้เคยมีที่วางรองเท้าสูงท่วมหัวเลย”
ฉันวาดมือในอากาศ ตรงที่ว่างข้างประตู“
ก็ทรายชอบซื้อรองเท้า ซื้อนั่นซื้อนี่ ซื้อจนบ้านรกไปหมดแล้ว ดูสิ ! จริงๆตรงนี้ต้องมีรองเท้าวางเป็นกองเลย”
เขาชี้ไปที่บันไดยกพื้นหนึ่งขั้น หน้าประตูบ้าน แล้วเราก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะเดินมายังกลางบ้าน
“ตรงนี้มีต้นวาสนา ตรงนี้มีโต๊ะกระจก ตรงนี้เป็นโซฟาสีครีม แต่สวยแค่เดือนเดียวเอง หลังจากนั้นสีก็หม่นๆชอบกลนะ”
เขาชี้นิ้วไปมาในอากาศ ฝุ่นคลุ้งตามการเคลื่อนไหวของเรา... ที่เหลืออยู่มีเพียงจานรองกระถางใบเดียวที่มุมห้อง บนพื้นไม้ปาเก้มีร่องรอยขูดขีดของบางสิ่งที่เคยวางอยู่
“ดูสิ!พื้นมีแต่รอย บอกแล้วเชียวตอนสร้างบ้านอย่าใช้พื้นแบบนี้ สวยแต่ดูแลยาก”
ฉันพูดแล้วเขาพยักหน้ารับทันที
“บ้านใหม่พี่ใช้พื้นกระเบื้องนี่แหละ ดูแลง่ายกว่า ใช้พื้นสีอ่อนทำให้บ้านกว้าง ผนังสีครีม พอเปิดไฟสีเหลืองคงดูอบอุ่นน่าอยู่”
เขายิ้มด้วยดวงตาประกายสดใส ก่อนรีบเดินตามฉันไปจนถึงห้องครัว...
“ห้องนี้ไม่ค่อยได้ใช้เลย...”
พูดแล้วฉันก็หัวเราะแก้เขิน
“ขอโทษนะที่ไม่ได้ดูแลให้มากกว่านี้”
ฉันพูดทั้งที่ไม่ได้มองหน้าเขาตรงๆ แต่ก็อุ่นใจขึ้นที่เขาตอบว่า
“ไม่เป็นไร”
เรายืนมองห้องนั้นอยู่นานและฉันก็รู้ว่าเขามองเห็นอะไร
ชั้นเก่าๆตรงนั้นเคยมีจานชามวางอยู่
เช้าวันที่เธอแสดงฝีมือ ผัดข้าวจานใหญ่แล้วแอบขโมยกุ้งที่ตั้งใจจะยำไปใส่จนเกือบหมด
ฉันโกรธ แต่วันนั้นเราไม่ได้ทะเลาะกัน วันนั้นเป็นวันอันแสนสุข
หลังจากที่เธอเข้ามากอดเบาๆแล้วขอโทษ เราก็หลับผล่อยไปพร้อมกันบนโซฟาสีหม่นเขาสะกิดฉันเบาๆจากภวังค์
มองลึกลงไปในดวงตาของฉัน เขาเองก็คงรู้ว่าฉันมองเห็นอะไรเราเดินขึ้นบันไดไปเงียบๆ ผ่านรูปถ่ายใบใหญ่บนผนังข้างบันไดไปทีละรูป รูปแรกเป็นรูปตั้งแต่สมัยเราเรียนมหาวิทยาลัย เขาชอบมารอฉันหน้าห้องเรียน ทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่แสนดีคอยเทคแคร์รุ่นน้อง......ฉันชอบรูปนี้ ฉันเห็นรอยยิ้มเป็นธรรมชาติของเรา
“เธอดูมีความสุข.... ฉันก็มีความสุข”
ฉันคิดอย่างนั้นที่กลางบันได ไฟกลมๆสีส้มยาวลงมา ส่องให้เห็นรูปที่สองเด่นชัดขึ้น ชุดแต่งงานสีขาวที่ฉันสวมดูส่องประกาย แต่ไม่สดใสและสวยงามเท่าแววตาของเธอ...วันแห่งความสุข...วันแห่งความสมหวัง แต่ไม่ใช่วันนี้ !เธอผลักประตูบานนั้นออก ! ลมพัดม่านสีขาวบางผืนใหญ่ที่ระเบียงสะบัดไปมา ลมแรงกระทบใบหน้าฉันหนาวเย็นไปถึงขั้วหัวใจ เตียงเหล็กเปล่า..ลวดลายสวยงามสีดำที่ตั้งอยู่กลางห้อง ไม่มีสิ่งใดพอจะให้ความอบอุ่นแก่ฉันได้เลย
“เตียงนี่ ทิ้งไว้ที่นี่คงดีที่สุดแล้วนะ”
เขาพูดเบาๆ
“รวมทั้งรูปพวกนั้นด้วยสินะ”
แล้วฉันก็หันไปสบตาเขา
“เราจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่ใช่ไหม”
ฉันพูดด้วยเสียงสั่นเครือ...เสียงแตรรถข้างล่างดังขึ้น 2-3 ครั้ง ฉันรู้ว่าถึงเวลาแล้ว
ในขณะที่น้ำตาเริ่มไหลรินอีกครั้งเขาดึงฉันเข้าไปกอดเบาๆ
“ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูแล.....”
...ม่านสีขาวสะบัดไปมา ได้แต่มองเขาที่ระเบียง ส่งเขาจนลับสายตาไปเถิดที่รัก..... เมื่อความรักของเราไม่อาจไปถึงฝั่งฝัน คนที่เคยฝากชีวิตไว้ไม่อาจมาดูแล คำสัญญาเมื่อวานวัน ต้องปล่อยให้มันจบลงไปพร้อมกับความหวังที่เราเคยวาดไว้ เมื่อเวลาที่ผ่านมา ไม่อาจผูกมัดอะไรเราไว้ได้เลยประตูระเบียงปิดลง ม่านสีขาวสงบนิ่ง ผ่านบันไดทีละขั้น ผ่านความเวิ้งว้าง ผ่านความว่างเปล่า ผ่านความทรงจำฉันมีอนาคตที่สดใสรออยู่ เธอก็เช่นกันไปเถิดที่รัก ไปเถิด..... “ขอเพียงอย่าลืมว่าเคยรักกัน ”
Sunday, September 03, 2006
"ความรัก" กับ "ความอดทน"...ทางเลือกที่ดีที่สุดคืออะไร
"ความรัก" กับ "ความอดทน"...ทางเลือกที่ดีที่สุดคืออะไร
“ความรัก”...กับ... “ความอดทน”...มักจะมาคู่กันเสมอ
ถ้ามีความรัก...ความอดทนก็จะมี
แต่ถ้าต้องมีความอดทน...ความรักก็เริ่มถอยหลังทีละนิด ทีละนิด
"ความรักไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ
ความอดทนก็ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวเหมือนกัน"
แต่เมื่อใด.......ที่ รู้สึกว่า ความรักจืดจาง...
ความอดทนที่เคยมีก็มลายหายไปพร้อมๆ กัน
ความรู้สึกดีๆ ที่เรียกว่ารักก็จะไปด้วย
ต่อให้ทำดีแค่ไหน ความรักก็ไม่กลับคืนมา
ในเมื่อ ทั้ง "ความรัก" และ "ความอดทน" หมดไป
และถ้าเมื่อใด........ที่มีจำเป็นต้องจาก ทั้งๆ ที่ยังรัก
เพราะ “ความอดทน” กำลังจะหมด
มันยากที่จะเก็บซ้อน “ความเจ็บ” เอาไว้
แต่ไม่ยากที่จะเก็บซ้อนความอดทนไว้ภายใน........
เพราะ...ถ้าเลือกที่จะรักต่อไป
ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บมากขึ้น
ทางเลือกที่ดีที่สุด...อาจไม่สวยงามนัก
แต่จากกันตอนยังรัก...ดีกว่าเกลียดกันแล้วค่อยจาก
การลาจากในวันนี้...อาจทำให้เข้มแข็งและพร้อมจะมี...
รักครั้งใหม่ที่สดใสกว่าเดิมก็ได้ ...มิใช่หรือ...




